ค้นหาโรงแรมรับส่วนลดสูงสุด 80%                                       
                                       
ค้นหาโรงแรมรับส่วนลดสูงสุด 80%
ค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไทย

กดถูกใจเพจของเราเพื่อติดตามข้อมูล ข่าวสาร กิจกรรม และสิทธิพิเศษสมาชิกได้ทันทีค่ะ






 ที่เที่ยวอ่างทอง > อำเภอป่าโมก > วัดปลดสัตว์



วัดปลดสัตว์

- ป่าโมก อ่างทอง -




รายละเอียดเกี่ยวกับที่เที่ยว

วัดปลดสัตว์ เดิมมีนามว่า “วัดสะแก” ต่อมากลายสภาพเป็นวัดร้าง ครั้นถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์องค์ที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ประมาณ พ.ศ.2400 ได้เริ่มมีการบูรณะขึ้นโดยมี ขุนธรรมการ (ทองคำ) ได้มาทำการบูรณะปฏิสังขรณ์ให้เป็นวัดมีพระสงฆ์มีนามใหม่ว่า “วัดดำรงค์ธรรม” ครั้น สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส วัดบวรนิเวศวิหาร สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 10 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้เสด็จตรวจการคณะสงฆ์และที่พักที่วัดนี้ ทรงปรารภว่า วัดตั้งอยู่ที่บ้านแห ควรจะชื่อว่า “วัดปลดสัตว์” หมายถึงการปลดสัตว์ออกจากแหจึงได้เปลี่ยนนามวัดมาเป็น “วัดปลดสัตว์” สืบต่อมาวัดปลดสัตว์เป็นวัดที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาแห่งแรกของจังหวัดอ่างทองฝ่ายธรรมยุตนิกาย เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2427 ( วันศุกร์ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 4 ปีวอก ) เขตวิสุงคามสีมากว้าง 26 เมตร ยาว 40 เมตร

อนึ่ง วัดปลดสัตว์นี้เป็นวัดหัวของธรรมยุตในจังหวัดอ่างทอง คำว่า หัววัดคือ มีตำแหน่งหน้าที่ปกครองคณะวัดของตนในจังหวัดอ่างทองดังได้เห็นจากตำแหน่งการปกครองทางคณะสงฆ์จากประวัติอดีตเจ้าอาวาสจนถึงปัจจุบัน

วัดปลดสัตว์นี้ เป็นวัดเก่าแก่ที่มีทิวทัศน์สวยงาม โบราณสถานและปูชนียสถานอันทรงคุณค่า โดยเฉพาะถูปาคารเจดีย์ เป็นปูชนียสถานอายุราว 150 ปี ถือว่าเป็นสัญลักษณ์วัดปลดสัตว์ก็ว่าได้ โดยสร้างมาตั้งแต่การสร้างอุโบสถ์วัดปลดสัตว์หลังเก่าในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงสูงยอดเข้าหากันสูง 7 ชั้น ฐานกว้างด้านละ 7 เมตร 7 เซนติเมตร หันหน้าออกทางด้านทิศตะวันออก สร้างตามอย่างเจดีย์พุทธคยา มีทั้งหมด 6 ชั้น เปรียบดังสวรรค์ทั้งหก และมีเจดีย์ประดิษฐานอยู่ด้านบนสุด เปรียบดังพระเจดีย์เกตุแก้วจุฬามณี บนสรวงสวรรค์ เชื่อกันว่า คนที่เกิดปีจอหรือปีมะเส็ง ได้กราบไหว้บูชาจะเกิดผลาอานิสงส์นานับประการ และปรารถนาสิ่งใดล้วนแต่สมประสงค์

วัดแห่งนี้มีความสำคัญ ด้วยในอดีตเป็นวัดที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระวชิรญาณวโรรส สมเด็จพระสังฆราชเจ้า ปราชญ์พระพุทธศาสนาเมืองไทย ประทานชื่อ นามว่า วัดปลดสัตว์ อันเป็นการปลดปล่อยชีวิตสัตว์ เป็นมหาบุญ เปรียบเสมือนว่าได้ชีวิตใหม่ ปลดทุกข์ ปลดโศก ปลดโรค ปลดภัย ล่วงเลยมาจนถึงกาลปัจจุบัน




   เว็บไซต์ : -
   แหล่งที่มาของข้อมูล : http://www.tourismthailand.org


ที่เที่ยวใกล้เคียง


วัดป่าโมกวรวิหาร
ภายในวัดมีพระวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่งดงามมากองค์หนึ่งของเมืองไทย องค์พระก่ออิฐถือปูนปิดทอง มีความยาวจากพระเมาลีถึงปลายพระบาท 22.58 เมตร สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย มีประวัติความเป็นมาเล่าขานกันว่า พระพุทธรูปองค์นี้ลอยน้ำมาจมอยู่หน้าวัด ราษฎรบวงสรวงแล้วชักลากขึ้นมาประดิษฐานไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำ พงศาวดารกล่าวว่าสมเด็จพระนเรศวรมหาราชก่อนที่จะยกทัพไปรบกับพระมหาอุปราชา ได้เสด็จมาชุมนุมพล และถว...
ศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยวเมืองอ่างทอง
ตั้งอยู่ ถนนเลี่ยงเมือง ริเริ่มและดำเนินการโดยเทศบาลเมืองอ่างทอง โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณตามโครงการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวขององค์กรปกครองท้องถิ่น เทศบาลเมืองอ่างทองได้ทำการเปิดศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยวเมืองอ่างทอง เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2548 โดยผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง (นายกมล จิตระวัง) มีวัตถุประสงค์ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของชาวอ่างทอง และนักเรียน นักศึกษารวมทั้งผู้สนใจทั่วไป ให้ข้อมูลความเป็นมาและเป็นไปขอ...
วัดถนน
วัดถนน เป็นวัดในจังหวัดอ่างทองที่น่าไปเยี่ยมชมสักการะอีกวัดหนึ่ง วัดนี้ตั้งอยู่ที่อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากรุงเทพฯ อยู่ที่ตำบลโผงเผง จากอำเภอป่าโมก ผ่านตลาดเทศบาลไปตามถนนสายป่าโมก-บางบาลสายใน (3501) กิโลเมตรที่ 19-20 ประมาณ 7 กิโลเมตร ก็จะถึงวัดถนน วัดนี้สร้างราว พ.ศ. 2323 ในสมัยกรุงธนบุรี ภายในวัดมีพระยืนขนาดเท่าองค์จริง ประดิษฐานอยู่ในวิหารนามว่า “หลวงพ่อพระพุทธรำพึง” หรือ “พระพุทธรำพึง...
วัดสุวรรณเสวริยาราม
ภายในกำแพงแก้วประกอบด้วย โบสถ์ เจดีย์ทรงลังกาขนาดใหญ่ พระพุทธไสยาสน์ยาวราว 10 เมตร ที่แปลกคือ ที่รอยพระบาทของพระพุทธไสยาสน์ทำเป็นริ้วลายพระบาทแบบเป็นรอยโค้งเว้า ประดิษฐานอยู่ในพระวิหาร ที่ช่างท้องถิ่นไทยนำรูปแบบสถาปัตยกรรมตะวันตกเข้ามาผสม คือมีช่องเป็นซุ้มโค้งแบบฝรั่ง ที่วัดสุวรรณเสวริยารามยังมีอีกสิ่งที่น่าสนใจคือ ภาพจิตรกรรมฝาผนังในอุโบสถทั้งสี่ด้าน เป็นศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ราวรัชกาลที่ 4-5 ซึ่งได้รับอิทธ...
วัดพินิจธรรมสาร
วัดพินิจธรรมสาร ตั้งวัดเมื่อ พ.ศ.2259 เดิมนามว่า “วัดชีปะชาว” เมื่อ พ.ศ.2269 ตรงกับสมัยอยุธยา รัชสมัยพระเจ้าท้ายสระท้าย พระองค์โปรดให้พระยาราชสงครามดำเนินการชักชะลอพระพุทธไสยาสน์เดิมประดิษฐานอยู่ในวิหารวัดป่าโมก ใกล้ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ในการนี้ได้จัดสร้างพระตำหนักพลับพลาชัยขึ้น ณ ที่ใกล้วัดชีปะขาว สำหรับเป็นที่ประทับกะวางแผนงาน สั่งงานและตรวจตราการปฏิบัติงานและผลของการปฏิบัติงาน โดยที่พระเจ้าท้ายสระพร้อม...
สปา - กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรป่าโมกพัฒนา
จากเดิมกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร ได้รวมกลุ่มกันทำผลิตภัณฑ์ เต้าเจี้ยว กล้วยตาก แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงต้องแยกย้ายกันไป ซึ่งเสงี่ยม ไม้แป้น หนึ่ง ประธานกลุ่มแม่บ้านฯ ที่อาชีพเดิมคลุกคลีในแวดวงเกษตรกรรมมาเกือบทั้งชีวิต หลังจากแนวคิดที่เธอจะทำสมุนไพรขายได้ผุดขึ้นมาในสมอง การรวมกลุ่มแม่บ้านฯ จึงหวนกลับมาอีกครั้ง และบทสรุปของอาชีพที่ลงตัวของพวกเธอในตอนนี้คือ "ทำสมุนไพรแปรรูป แบบครบวงจร"บ้านสวนสมุนไพร ครบวงจร ของกลุ่...
ไร่นาสวนผสม สมจิต เริงโพธิ์
ไร่นาสวนผสม สมจิต เริงโพธิ์ ได้รับรางวัลแปลงไร่นาสวนผสมและผู้หญิงเกษตร สาขาเกษตรระดับชาติประจำปี 2544 คุณสมจิตทำไร่นาสวนผสมหลายอย่างบนพื้นที่ประมาณ 13 ไร่ นา 10 ไร่ ตั้งอยู่ที่ 16 หมู่ที่ 2 ตำบลคลองวัว อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง เน้นการผลิตมะม่วงทะวาย เช่น พันธุ์เศรษฐี ทะวาย โชคอนันต์ น้ำดอกไม้มัน ส้มโอ ส้มเขียวหวาน ทำให้มีรายได้รายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือนคุณสมจิตเป็นผู้มีความรู้ความสามารถด้านการทำ...
วัดโพธิ์หอม (วัดป่าหัวพัน)
วัดโพธิ์หอม เดิมเป็นวัดร้างมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา วัดโพธิ์หอม หรือ วัดป่าหัวพัน มีสิ่งที่น่าสนใจในวัดนี้ คือ ปูนปั้นรูปบุคคล 4 หน้า ซึ่งเรียกว่า “รูปพรหมสี่หน้า หรือ พรหมพักตร์” มีขนาดค่อนข้างใหญ่ 2 เศียร ตั้งประดับประดาอยู่บนพานปูนปั้นหน้าศาลาซึ่งสร้างบนฐานของพระอุโบสถเดิม สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นส่วนยอดของประตูวัดหรืออุโบสถ หากว่ารูปปูนปั้นซึ่งมีจำนวน 2 ชิ้นนี้เป็นศิลปวัตถุของวัดนี้มาแต่เดิม เป็นเรื่องที่น่...

โรงแรมใกล้เคียง