ค้นหาโรงแรมรับส่วนลดสูงสุด 80%                                       
                                       
ค้นหาโรงแรมรับส่วนลดสูงสุด 80%
ค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไทย

กดถูกใจเพจของเราเพื่อติดตามข้อมูล ข่าวสาร กิจกรรม และสิทธิพิเศษสมาชิกได้ทันทีค่ะ






 ที่เที่ยวสุพรรณบุรี > อำเภอเมืองสุพรรณบุรี > บึงฉวาก



บึงฉวาก

อยู่ห่างจากตัวอำเภอเมืองสุพรรณประมาณ 64 กิโลเมตร มีพื้นที่ติดต่อกับอำเภอหันคา จังหวัดชัยนาทและอำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เมืองสุพรรณบุรี สุพรรณบุรี 72000




รายละเอียดเกี่ยวกับที่เที่ยว

บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ เป็นบึงน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 2,700 ไร่ อยู่ห่างจากตัวอำเภอเมืองสุพรรณประมาณ 64 กิโลเมตร บึงฉวากมีพื้นที่ติดต่อกับอำเภอหันคา จังหวัดชัยนาทและอำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี ส่วนที่อยู่ในเขตอำเภอเดิมบางนางบวชมีพื้นที่ประมาณ 1,700 ไร่
บึงฉวากได้รับประกาศให้เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่ามาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2526 และในปีพ.ศ. 2541 ได้รับการจัดให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับชาติตามอนุสัญญาแรมซาร์ที่ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นภาคี เนื่องจากความหลากหลายของพันธุ์พืชและสัตว์ที่มีในบึง ลักษณะที่เรียกว่าเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำตามอนุสัญญาแรมซาร์ คือ พื้นที่ลุ่ม พื้นที่ราบลุ่ม พื้นที่ลุ่มชื้นแฉะ พื้นที่ฉ่ำน้ำ มีน้ำท่วม น้ำขัง พื้นที่พรุ พื้นที่แหล่งน้ำ ทั้งที่เกิดเองตามธรรมชาติและที่มนุษย์สร้าง ทั้งที่มีน้ำขังหรือน้ำท่วมถาวรและชั่วคราว ทั้งแหล่งน้ำนิ่งและน้ำไหล แหล่งน้ำจืด น้ำกร่อยและน้ำเค็ม รวมไปถึงพื้นที่ชายฝั่งทะเลและทะเลในบริเวณซึ่งเมื่อน้ำลดต่ำสุด น้ำลึกไม่เกิน 6 เมตร ซึ่งบึงฉวากเข้าข่ายลักษณะดังกล่าว คือเป็นบึงน้ำจืดที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีความลึกเฉลี่ยประมาณ 1–3 เมตร
พื้นที่บึงฉวากอยู่ในความดูแลของหน่วยราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เช่น กรมปศุสัตว์ กรมส่งเสริมการเกษตรและอุตสาหกรรม เป็นต้น

เมื่อปี พ.ศ.2538 ฯพณฯบรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกรัฐมนตรี ได้พัฒนาบึงฉวากเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบรอบ 50 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ และมีการสร้างสวนสัตว์ อาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำอุทยานผักพื้นบ้าน เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สมบูรณ์มีความหลากหลาย ภายในบึงฉวากมีบริการนวดแผนไทย และเรือเร็วบริการอีกด้วย

ริมบึงฉวากมีบรรยากาศร่มรื่น ลมพัดเย็นสบายตลอด ในบริเวณบึงเต็มไปด้วยดอกบัวสีแดงและชมพู ในช่วงตอนเช้าบัวจะบานสวยงาม นกเป็ดแดงฝูงใหญ่จับกลุ่มอยู่ตามกอบัวในช่วงฤดูหนาว ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคมและนกจะทยอยกลับในช่วงเดือนเมษายน มีศาลาสำหรับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน มีบริการขี่จักรยานน้ำ นักท่องเที่ยวสามารถขออนุญาตกางเต็นท์พักแรมริมบึง ปัจจุบันกำลังมีการพัฒนาบึงฉวากให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดสุพรรณบุรี มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอยู่ในความดูแลเช่น

สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ เป็นหน่วยงานขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี ภายในอาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำรวบรวมพันธุ์ปลาน้ำจืด ปลาสวยงามและพันธุ์ปลาหายากเอาไว้ให้ประชาชนได้ศึกษา แบ่งเป็น 3 อาคาร

อาคารแสดงสัตว์น้ำหลังที่ 1 จัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำจืดและสัตว์น้ำเค็ม ทั้งพันธุ์ปลาไทย และพันธุ์ปลาต่างประเทศกว่า 50 ชนิดเช่น ปลาบึก ปลากระโห้ ปลาม้า ปลากราย ปลาช่อนงูเห่า ปลาเสือตอ เป็นต้น

อาคารแสดงสัตว์น้ำหลังที่ 2 ประกอบด้วยตู้ปลาขนาดใหญ่สวยงามบรรจุน้ำได้กว่า 400 ลูกบาศก์เมตร และมีอุโมงค์ความยาวประมาณ 8.5 เมตร ผู้ชมสามารถเดินลอดผ่านใต้ตู้ปลาได้บรรยากาศเหมือนอยู่ใกล้สัตว์น้ำ ซึ่งถือว่าเป็นอุโมงค์ปลาน้ำจืดแห่งแรกของประเทศไทย มีนักประดาน้ำหญิงสาธิตการให้อาหารปลา นอกจากนั้นโดยรอบยังมีตู้ปลาน้ำจืดอีก 30 ตู้ และตู้ปลาทะเลสวยงามอีก 7 ตู้
การแสดงตู้ปลาใหญ่มีเฉพาะในวันเสาร์ อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ มี 4 รอบ ตั้งแต่เวลา 10.30-16.00 น.
สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ เปิดให้เข้าชมทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 10 บาท วันจันทร์-ศุกร์ เปิดเวลา 08.30–17.00 น. วันเสาร์ - อาทิตย์ เปิดเวลา 08.30–18.00 น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3543 0043-4, 0 3543 0033

อาคารสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำหลังที่ 3 (สวรรค์แห่งโลกใต้ทะเล) จัดแสดงพันธุ์ปลาทะเลมากมายหลายชนิดให้ได้ชมกัน มีตู้ปลาขนาดใหญ่ และตู้ปลารูปทรงแปลกตา เพื่อคอยบริการนักท่องเที่ยวให้ได้ชื่นชมกับความสวยงาม และบรรยากาศของโลกใต้ท้องทะเล รวมทั้งตื่นตาตื่นใจกับอุโมงค์ปลา และบันไดเลื่อน ขนาดความยาว 75 เมตร เพื่อให้ได้ศึกษาสภาพความเป็นอยู่ของสัตว์ทะเลอย่างใกล้ชิด รวมทั้งบ้านของเจ้าแห่งท้องทะเล หรือ ปลาฉลามอีกจำนวนมาก
สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ เปิดให้เข้าชมทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 50 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท วันจันทร์-ศุกร์ เปิดเวลา 09.00-17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เปิดเวลา 09.00-18.00 น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3543 0043-4, 0 3543 0033 โทรสาร 0 3543 9208

เวทีริมบึง มีการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านของนักเรียน นักศึกษาในจังหวัดสุพรรณบุรี นำการแสดงศิลปะพื้นบ้านที่หาดูได้ยากมาให้ชมในช่วงวันหยุดเทศกาล

บ่อจระเข้น้ำจืด เป็นบ่อจระเข้ที่ได้จำลองให้มีสภาพใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด พื้นที่ประมาณ 3 ไร่ มีจระเข้น้ำจืดพันธุ์ไทยขนาด 1.5–4.0 เมตร ประมาณ 60 ตัว ซึ่งผู้ชมจะได้เห็นความเป็นอยู่แบบธรรมชาติของจระเข้และสามารถเข้าชมอย่างใกล้ชิด มีการแสดงจระเข้วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ รอบ 11.00 น., 12.30 น., 14.00 น. และ 15.30 น.

ในส่วนของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก สร้างขึ้นเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสทรงครองราชย์เป็นปีที่ 50 ประกอบไปด้วย อาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยว จัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าชนิดต่างๆ การดูนก สภาพทางภูมิศาสตร์ ประวัติความเป็นมาของบึงฉวาก มีตู้จำลองระบบนิเวศ ห้องฉายสไลด์วิดีทัศน์ ด้านนอกอาคารมี กรงเลี้ยงนก ขนาดใหญ่ มีพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ สูง 25 เมตร ภายในกรงได้รับการตกแต่งให้ดูคล้ายสภาพธรรมชาติ ประกอบด้วยนกกว่า 45 ชนิด ที่น่าสนใจได้แก่ นกกาบบัว นกเป็ดแดง ไก่ฟ้าพญาลอ และไก่ฟ้าสีทอง ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นไก่ฟ้าที่มีความสวยงามที่สุดในโลก มีการจำลองน้ำตกขนาดเล็กเอาไว้ภายในกรง ผู้เข้าชมจะเดินตามทางเดินที่จัดไว้และได้สัมผัสใกล้ชิดกับนกต่างๆ ที่ปล่อยให้มีชีวิตอยูในสภาพแบบธรรมชาติเดินผ่านหน้าเราไป หากเดินถัดไปจากกรงนก จะเป็นกรงเสือขนาดใหญ่ กรงเสือขนาดเล็ก มีเสือชนิดต่างๆให้ชมและ ที่พิเศษคือ มีลูกเสือดูดนมหมู และสัตว์สวยงามอีกหลายชนิด

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก เปิดทุกวัน จันทร์-ศุกร์ 08.00–16.30 น. เสาร์-อาทิตย์ 08.00–18.00 น. โทร. 0 3543 9206, 0 3543 9210 สำนักงานเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก โทร. 0 3548 1250

กรงเสือและสิงโต ลักษณะภายในตกแต่งเป็นถ้ำและเนินหินให้ดูคล้ายสภาพธรรมชาติ ซึ่งเป็นกรงเลี้ยงสัตว์ป่าตระกูลแมว อันได้แก่ สิงโต เสือโคร่ง เสือลายเมฆ เสือดาว แมวดาว เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีกรงสัตว์ป่าหายากอีกหลายประเภทที่จัดแสดงไว้ เช่น นกน้ำ นกยูงและไก่ฟ้าชนิดต่างๆ ม้าลาย อูฐ และนกกระจอกเทศ เป็นต้น
สำนักงานเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก โทร. 0 3548 1250

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก โทร. 0 3548 1250

เกาะกระต่าย พื้นที่คล้ายเกาะ สร้างเป็นที่พักของกระต่าย 2 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์เจอร์ซี่ วูลลี่ และสายพันธุ์แองโกร่า ที่มีความน่ารักและสวยงาม รวมทั้งยังมีกวางดาว เน้อทราย และจากสาเหตุที่เป็นเกาะมีพื้นที่น้ำล้อมรอบ จึงเลี้ยงปลาไว้ในกระชังอีกจำนวนมาก เพื่อให้ผู้คนได้พักผ่อนอีกประเภทหนึ่ง โดยการให้อาหาร เช่น ปลาทอง ปลาคาร์ฟ ปลาสวายเผือก ฯลฯ
ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก เปิดทุกวัน จันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00–16.30 น. เสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00–18.00 น.

ศูนย์จำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ อาคารสองชั้นติดกรงนกขนาดใหญ่ รวบรวมสินค้าทั้งของกินและของใช้จากจังหวัดสุพรรณบุรีมาไว้ที่นี่ นอกจากจะแสดงสินค้าภายในจังหวัดแล้ว ยังรวบรวมสินค้าจากจังหวัดใกล้เคียงมาไว้ในอาคารนี้อีกด้วย

โรงสีชุมชน สถานที่รับรองผลผลิตของเกษตรกรชาวนาที่ปลูกข้าวปลอดสารพิษ นำผลผลิตที่ได้มาส่งให้โรงสีขนาด 5 ก.ก. ต่อชั่วโมง เพื่อแปรรูปเป็นข้าวสารปลอดสารพิษบึงฉวาก ออกจำหน่ายเพื่อเป็นรายได้เสริมของเกษตรกร และอีกทางเลือกหนึ่งของผู้บริโภค

อุทยานผักพื้นบ้านเพื่อการยังชีพ ฉลิมพระเกียรติบึงฉวาก อยู่ในความดูแลของกรมส่งเสริมการเกษตร จัดตั้งขึ้นเพื่อสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนทั่วไปเห็นคุณค่าและอนุรักษ์ผักพื้นบ้าน โดยรวบรวมผักพื้นบ้านจากทั่วภูมิภาคของประเทศไทยกว่า 500 ชนิด มาปลูกไว้ในบริเวณเกาะกลางบึงฉวาก มีทั้งสมุนไพร ไม้ยืนต้น ไม้เลื้อย ไม้ล้มลุก และไม้ชื้นแฉะที่น่าสนใจได้แก่ น้ำเต้าสี่เหลี่ยม บวบหอมขนาดใหญ่ อุโมงค์น้ำพุ และการจัดสวนไม้ประดับด้วยผักพื้นบ้าน
นอกจากนั้นยังมีโรงปลูกพืชระบบระเหยน้ำ และสาธิตการปลูกพืชไร้ดินจัดแสดงให้ชมด้วย และมีห้องสมุดบริการคอมพิวเตอร์สำหรับค้นคว้าข้อมูลพันธุ์ผักต่างๆ ห้องนิทรรศการแสดงผลผลิตทางการเกษตร ศูนย์บริการท่องเที่ยวเกษตรอุทยานผักพื้นบ้านฯ เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-18.00 น.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 08 1948 9214, 08 9836 1358 โทร. 0 3543 0011 หรือ สำนักงานเกษตร อำเภอเดิมบางนางบวช โทร. 0 3554 5450, 0 3555 5455

การเดินทาง จากถนนสายตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340) เมื่อถึงอำเภอเดิมบางนางบวช สามารถเข้าไปได้ 2 ทาง คือ เมื่อถึงสี่แยกทางเข้าตัวอำเภอเดิมบางนางบวช เลี้ยวซ้ายขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน ตรงไปจนพบสามแยกตัดกับถนนเลียบคลองชลประทาน ให้เลี้ยวขวาไปตามถนนเลียบคลองชลประทาน

อีกเส้นทางหนึ่งไปตามทางหลวงหมายเลข 340 หลักกิโลเมตรที่ 147 ด้านซ้ายมือจะเห็นโรงเรียนวัดเดิมบางนางบวช ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยข้างโรงเรียน ข้ามแม่น้ำแล้วตรงไปเรื่อยๆ เมื่อถึงสามแยกตัดกับถนนเลียบคลองชลประทานให้เลี้ยวขวาไปตามถนน จนพบสะพานข้ามคลองชลประทานด้านซ้ายมือ ให้เลี้ยวซ้ายข้ามสะพานแล้วตรงไปเรื่อยๆ จะเห็นบึงฉวาก



สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ (เฉพาะสถานแสดงพันธุ๋สัตว์น้ำบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ)

ทางลาด มีทางลาดหลายจุด ทั้งทางลาดภายในอาคารโดยทางลาดภายในอาคารมีความชัน ควรมีผู้ช่วยเหลือคนที่ใช้ Wheel Chair ในการขึ้นทางลาด

ป้ายสัญลักษณ์ จัดไว้หลายจุดบริเวณหน้าห้องส้วม ทางลาด และบริเวณทางเข้า

ห้องส้วม มีห้องน้ำเฉพาะ 1 ห้องด้านนอกอาคารแบบไม่แยกเพศ
มีบริการรถเข็นสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุฟรี




   เว็บไซต์ : -
   แหล่งที่มาของข้อมูล : http://www.tourismthailand.org


ที่เที่ยวใกล้เคียง


วัดสนามชัย
วัดสนามชัยตั้งอยู่หมู่ที่ 5 ตำบลสนามชัย อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยอยู่ริมแม่น้ำสุพรรณบุรี (ท่าจีน) ฝั่งตะวันออก หากขับรถยนต์ส่วนตัวมา จะอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 340 ห่างจากจังหวัดประมาณ 2 กิโลเมตร วัดแห่งนี้มีเนื้อที่ประมาณ 57 ไร่ ในเรื่องของประวัติความเป็นมาของวัด ไม่มีหลักฐานแน่การสร้างแน่ชัด แต่มีเขียนในพงศาวดารเหนือเล่าว่า พระเจ้ากาแต ทรงให้มอญน้องผู้เป็นญาติสร้างขึ้นพร้อมกับบูรณะวัดป่าเลไลยก์ ทั้งนี...
หอคอยบรรหาร-แจ่มใส
หอคอยบรรหาร-แจ่มใส ตั้งอยู่ในสวนเฉลิมภัทรราชินี เป็นหอคอยชมวิวแห่งแรก และสูงที่สุดในประเทศไทยมองเห็นโดดเด่นอยู่กลางเมือง มีความสูงถึง 123.25 เมตร ฐานกว้าง 30 เมตร การขึ้นเที่ยวชมหอคอย จะมีจุดแวะพักชมวิว 4 ชั้น โดยชั้นที่ 1 เป็นที่จำหน่ายบัตรและของที่ระลึก ส่วนชั้นที่ 2 เป็นร้านจำหน่ายเครื่องดื่มอาหารว่างและจุดนั่งชมสวน ชั้นที่ 3 เป็นร้านจำหน่ายของที่ระลึกและจุดชมตัวเมือง และชั้นที่ 4 อยู่ในระดับสูงสุด 78.7...
วัดสุวรรณภูมิ (วัดกลางหรือวัดใหม่)
วัดสุวรรณภูมิ เป็นวัดสมัยอยุธยาตอนต้น เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 600 ปี วัดแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณถนนพระพันวษา โดยอยู่ในเขตเทศบาล ตรงข้ามกับที่ว่าการอำเภอเมืองสุพรรณบุรี ในอดีต วัดแห่งนี้มีชื่อว่า “วัดกลาง” ซึ่งปรากฏในเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผนตอนขุนช้างไปขอนางพิม กับแม่ของนางพิม โดยหลอกว่า ขุนแผน ได้เสียชีวิตแล้วในระหว่างศึกสงคราม แม่ของนางพิม หลงเชื่อ และเกรงว่าทรัพย์สินต่างๆจะถูกยึด จึงยอมยก...
ตลาดโพธิ์พระยา
ตั้งอยู่ที่ตำบลโพธิ์พระยา ซึ่งเป็นตลาดดั้งเดิมที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำท่าจีน เริ่มก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2468 ภายหลังจากการสร้างเขื่อนประตูน้ำโพธิ์พระยา สภาพเดิมเป็นอาคารไม้ชั้นเดียว ชาวไทยเชื้อสายจีนได้รวมตัวกันประกอบอาชีพค้าขาย มีความเจริญรุ่งเรืองทางการค้ามาแต่อดีต เนื่องจากการติดต่อกับตัวเมืองสุพรรณบุรีจะต้องใช้เส้นทางทางน้ำเป็นทางสัญจร ตลาดโพธิ์พระยาจึงเป็นจุดรวมของผู้คนที่ต้องการเดินทางสัญจรไปมาระหว่างโพธิ์พ...
ศาลตายาย
ศาลตายาย ตั้งอยู่ถนนนางพิม เป็นศาลศักดิ์สิทธิ์ของชาวจังหวัดสุพรรณบุรี สถานที่สักการะบูชามากว่า 100 ปี ศาลตายายแห่งนี้บรรพบุรุษของเราได้บอกเล่าเรื่องราวแก่ลูกหลานไว้ว่า ตาและยายเป็นบรรพบุรุษของชาวสุพรรณบุรีที่เปี่ยมไปด้วยพรหมวิหาร ผู้ใดขัดข้องหมองใจไปพบท่าน ท่านก็จะเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้ความกรุณาเมตตาธรรมแก่ทุกคนเสมอมา สถานที่พำนักของตายายเรียกว่า ทางสี่แพ่ง นับว่าเป็นชุมทางหรือว่าเป็นประตูป่าสมัยโบราณกา...
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุพรรณบุรี
จัดตั้งขึ้นตามโครงการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติประจำเมือง เมื่อปีพุทธศักราช 2538 เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านโบราณคดีประวัติศาสตร์ มนุษย์วิทยา ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นของจังหวัดสุพรรณบุรี ประกอบด้วยวิทยาลัยนาฏศิลปสุพรรณบุรี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสุพรรณบุรี หอจดหมายเหตุแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี หอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรีเฉลิมพระเกียรติ และโรงละครแห่งชาติภาคตะวันตกจังหวัดสุพรรณบุรี ที่จัดตั้งขึ้นตามโครงการพิพิธภั...
โรงละครแห่งชาติภาคตะวันตก
เป็นอีกหนึ่งมรดกทางวัฒนธรรมไทยที่ได้ถ่ายทอดเรื่องราวศิลปวัฒนธรรมและความงามที่งดงามเป็นสถานที่อันล้ำค่าไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรมไทย โรงละครแห่งชาติภาคตะวันตกแห่งนี้เป็นศูนย์ศิลปวัฒนธรรมภาคตะวันตกที่ตั้งอยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรี โดยได้มีการพัฒนามาจากการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ 4 มุมเมืองอันเป็นโครงการขยายงานทางด้านศิลปวัฒนธรรมไปสู่แต่ละภูมิภาคของกรศิลปากรโดยได้มีการริเริ่มที่บริเวณวัดยางแย้เป็นที่แรก โดยต่อมาทางจังหวัดสุ...
หอเกียรติยศ ฯพณฯ บรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 21
หอเกียรติยศ ฯพณฯ บรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 21ตั้งอยู่ริมถนนสุพรรณบุรี – ชัยนาท ทางหลวงหมายเลข 340 ตำบลสนามชัย เกิดขึ้นจากความร่วมแรงร่วมใจของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสุพรรณบุรีร่วมกันบริจาคเงินก่อสร้างโดยไม่ได้ใช้งบประมาณของทางราชการ ดำเนินการออกแบบโดยกรมศิลปากร มีลักษณะเป็นอาคาร 2 ชั้น ภายในจัดแสดงประวัติและผลงานของ ฯพณฯ บรรหาร ศิลปอาชา ตั้งแต่วัยเด็กกระทั่งได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐม...

โรงแรมใกล้เคียง


โรงแรมวาสิฏฐี ซิตี้ คะแนน : 6.7   รีวิว : 70
โรงแรม สุพรรณบุรี, ประเทศไทย
ในย่านท่องเที่ยวยอดนิยมอย่าง สุพรรณบุรี โรงแรมวาสิฏฐี ซิตี้ เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่รับรองว่าจะทำให้การเข้าพักของคุณเป็นช่วงเวลาแสนสุขอันผ่อนคลาย ที่พักนำเสนอสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่จะทำให้การเข้าพักของคุณเป็นประสบการณ์ที่น่าอภิรม...
           
เดิมบางวิลลา คะแนน : 7.8   รีวิว : 90
โรงแรม สุพรรณบุรี, ประเทศไทย
เชิญเข้าพักที่ เดิมบางวิลลา เพื่อสำรวจความน่าตื่นตาตื่นใจของ สุพรรณบุรี โรงแรมแห่งนี้นำเสนอการบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกมาตรฐานดีเยี่ยมเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของนักเดินทางทุกประเภท สิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น เช่น รู...
           
ธารระริน วิลล่า คะแนน : 9.3   รีวิว : 5
โรงแรม สุพรรณบุรี, ประเทศไทย
ธารระริน วิลล่า เป็นตัวเลือกที่พักยอดนิยมในหมู่นักเดินทางที่มาเยือน สุพรรณบุรี ไม่ว่าเพื่อเที่ยวชมหรือแวะพักชั่วคราว โรงแรมแห่งนี้เพียบพร้อมด้วยทุกสิ่งที่คุณต้องการสำหรับการเข้าพักที่สะดวกสบาย เพลิดเพลินไปกับ ห้องนั่งเล่น/ดูทีวีส่...
           
ศรีอู่ทอง แกรนด์ โฮเต็ล คะแนน : 7.9   รีวิว : 172
โรงแรม สุพรรณบุรี, ประเทศไทย
ในย่านท่องเที่ยวยอดนิยมอย่าง สุพรรณบุรี ศรีอู่ทอง แกรนด์ โฮเต็ล เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่รับรองว่าจะทำให้การเข้าพักของคุณเป็นช่วงเวลาแสนสุขอันผ่อนคลาย โรงแรมแห่งนี้มีบริการสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย พร้อมให้คุณได้สัมผัสช่วงเวลาแสนวิเศ...