ค้นหาโรงแรมรับส่วนลดสูงสุด 80%                                       
                                       
ค้นหาโรงแรมรับส่วนลดสูงสุด 80%
ค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไทย

กดถูกใจเพจของเราเพื่อติดตามข้อมูล ข่าวสาร กิจกรรม และสิทธิพิเศษสมาชิกได้ทันทีค่ะ






 ที่เที่ยวพระนครศรีอยุธยา > อำเภอท่าเรือ > พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจันทรเกษม



พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจันทรเกษม

- ท่าเรือ พระนครศรีอยุธยา -




รายละเอียดเกี่ยวกับที่เที่ยว

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจันทรเกษม หรือ วังจันทรเกษม หรือ วังหน้า ตั้งอยู่ถนนอู่ทอง ริมแม่น้ำป่าสักมุมทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะเมืองใกล้ตลาดหัวรอ วังจันทรเกษมปรากฎหลักฐานพงศาวดารว่าสร้างในสมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชประมาณ พ.ศ.2120 เพื่อให้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และเคยใช้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระยุพราชและพระมหากษัตริย์หลายพระองค์

เมื่อคราวเสียกรุงในปีพ.ศ.2310 วังนี้ได้ถูกข้าศึกเผาทำลายเสียหายมากและถูกทิ้งร้าง จนถึงสมัยรัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์โปรดเกล้าฯ ให้ซ่อมพระที่นั่งพิมานรัตยาและพลับพลาจตุรมุขไว้เป็นที่ประทับเมื่อเสด็จประพาสพระนครศรีอยุธยาและพระราชทานนามว่า “พระราชวังจันทรเกษม” เมื่อวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ.2436 ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้พระราชทานพระที่นั่งพิมานรัตยาเป็นที่ทำการของมณฑลกรุงเก่าเมื่อพ.ศ. 2442 และจนกระทั่งเมื่อพระยาโบราณราชธานินทร์ได้เข้ามาดำรงตำแหน่งสมุหเทศาภิบาลมณฑลกรุงเก่าจึงได้จัดสร้างอาคารที่ทำการภาคบริเวณกำแพงทางด้านทิศตะวันตกต่อกับทิศใต้ แล้วย้ายที่ว่าการมณฑลจากพระที่นั่งพิมานรัตยามาตั้งที่อาคารที่ทำการภาคในขณะนั้น กรมศิลปากรจึงได้เข้ามาดูแลและจัดทำเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษมจนกระทั่งปัจจุบัน

โบราณสถานโบราณวัตถุที่น่าสนใจในพระราชวังจันทรเกษม มีดังนี้ กำแพงและประตูวัง ปัจจุบันก่อเป็นกำแพงอิฐมีใบเสมา มีประตูด้านละ 1 ประตู รวม 4 ด้าน

พลับพลาจตุรมุข ตั้งอยู่ใกล้ประตูวังด้านทิศตะวันออก เป็นพลับพลาเครื่องไม้ มีมุขด้านหน้า 3 มุข ด้านหลัง 3 มุข เดิมใช้เป็นท้องพระโรงสำหรับออกงานว่าราชการและเป็นที่ประทับ ต่อมากลายเป็นที่จัดแสดงโบราณวัตถุ เรียกว่า อยุธยาพิพิธภัณฑสถาน ปัจจุบันจัดแสดงเครื่องใช้ส่วนพระองค์ที่มีอยู่เดิมภายในพระราชวังนี้

พระที่นั่งพิมานรัตยา จัดแสดงประติมากรรมที่สลักจากศิลา เป็นเทวรูปและพระพุทธรูปนาคปรก ศิลปสมัยลพบุรี พระพุทธรูปสำริดสมัยอยุธยา พระพิมพ์ และเครื่องไม้แกะสลัก

พระที่นั่งพิสัยศัลลักษณ์ หรือ หอส่องกล้อง เป็นหอสูงสี่ชั้น ใช้เป็นที่ประทับทอดพระเนตรดวงดาว

ตึกที่ทำการภาค จัดนิทรรศการถาวร 5 เรื่อง คือ เรื่องศิลปะสถาปัตยกรรมอยุธยา เครื่องปั้นดินเผาสินค้านำเข้าและส่งออกที่สำคัญของอยุธยา อาวุธยุทธภัณฑ์ ศิลปวัตถุพุทธบูชาและวิถีชีวิตริมน้ำชาวกรุงเก่า

การเดินทาง จากกรุงเทพฯ เข้าตัวเมืองอยุธยา เมื่อข้ามสะพานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชแล้วให้เลี้ยวซ้ายตรงไปจนถึงสามแยกเลี้ยวซ้ายอีกครั้งและตรงไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จะผ่านตลาดเจ้าพรหม จากนั้นจะเห็นพิพิธภัณฑ์อยู่ทางซ้ายมือ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 09.00-16.00 น. เว้นวันจันทร์ อังคารและวันหยุดนักขัตฤกษ์ ค่าเข้าชม ชาวไทย 30 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่โทร. 0-3525-1586, 0-3525-2795 โทรสาร 0-3525-1586

หากใครชื่นชอบการเที่ยวชมวังแล้วละก็พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจันทรเกษมก็น่าสนใจไม่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นวังแห่งนี้เคยใช้เป็นฉากสำคัญในละครเรื่องสี่แผ่นดินอีกด้วย




   เว็บไซต์ : -
   แหล่งที่มาของข้อมูล : http://www.tourismthailand.org


ที่เที่ยวใกล้เคียง


วัดวรเชษฐาราม
วัดวรเชษฐาราม เป็นเพราะอารามหลวงเก่าอายุกว่า 400 ปี ตั้งอยู่ภายในเกาะเมือง สร้างขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระเอกาทศรถ เพื่ออุทิศถวายเปนพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ผู้เป็นพระเชษฐา วัดแห่งนี้จึงใช้ในการถวายพระเพลิงพระบรมศพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งกรุงศรีอยุธยา และเป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิของพระองค์ มีเรื่องเล่ากันว่า เคยมีคนลักลอบขุดกรุเจดีย์ประธานแล้วพบผอบบรรจุอัฐิล้อมด้วยพระพุทธรูป...
วัดธรรมาราม
วัดธรรมาราม ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านป้อม หมู่ที่ 6 นอกเกาะเมืองด้านทิศตะวันตกอยู่ติดกับริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้กับวัดกษัตราธิราช หากมองไปอีกฝั่งของแม่น้ำจะเห็นจะพระเจดีย์ศรีสุริโยไทอยู่ตรงข้ามแต่เดิมเดิมชื่อ วัดธรรมา ภายหลังเรียกกันว่า “วัดธรรมาวาศ” บ้าง “วัดราชธรรมาวาศวรวิหาร” บ้าง แต่ในปัจจุบันเรียกวัดธรรมาราม วัดแห่งนี้ไม่ปรากฏว่าสร้างมาแต่รัชสมัยใด แต่สันนิษฐานว่าสร้างมาแล้วไม่น้อยกว่า 415 ปีเลยทีเดียวใน...
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา ตั้งอยู่ที่ตำบลประตูชัย ถนนโรจนะ ตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา สร้างขึ้นด้วยเงินที่ประชาชนเช่าพระพิมพ์ที่ขุดได้จากกรุ วัดราชบูรณะซึ่งเป็นวัดที่เจ้าสามพระยาทรงสร้าง จึงให้ชื่อว่า “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา” ภายในพิพิธภัณฑ์แบ่งเป็นอาคารจัดแสดง 3 อาคาร คือ อาคาร 1 ชั้นล่าง จัดแสดงโบราณศิลปะวัตถุที่ค้นพบจากการขุดแต่งและบูรณะโบราณส...
ตลาดโก้งโค้ง (บ้านแสงโสม)
ตลาดโก้งโค้ง ตั้งอยู่หมู่ 5 ถนนบางประอิน-วัดพนัญเชิง (ติดวัดบ้านเลน) ตำบลขนอนหลวง อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณ “บ้านแสงโสม” (ลักษณะเป็นบ้านเรือนไทยหมู่ใหญ่ คงความเป็นสถาปัตยกรรมไทยแบบโบราณ) เป็นตลาดโบราณบรรยากาศย้อนยุค คำว่า “ตลาดโก้งโค้ง” เป็นคำที่ใช้เรียกตลาดในสมัยโบราณ คือที่คนนั่งขายสินค้าจะนั่งอยู่บนพื้น คนที่มาซื้อจะต้องโก้งโค้งเลือกดูสินค้าที่ตนสนใจ สถานที่แห่งน...
วัดบางนมโค
วัดบางนมโคห่างจากที่ว่าการอำเภอเสนา ประมาณ 2 กิโลเมตร สันนิษฐานกันว่าวัดบางนมโคสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย เมื่อครั้งกองทัพพม่ายกเข้ามาตีกรุงศรีอยุธยา ในปี พ.ศ. 2310 นั้น พม่าได้มาตั้งค่ายกองกำลังที่สีกุก อำเภอบางบาล ซึ่งห่างจากวัดบางนมโคประมาณ 2 กิโลเมตรเศษ พม่าได้ทำการกวาดต้อนผู้คน วัวควายในทุ่งแถบนี้ไปเป็นเชลย เป็นพาหนะ เป็นอาหาร สำหรับเป็นเสบียงสนับสนุนกองทัพ เอาโคของประชาชนไปอยู่ในในที่กองกำ...
วัดสะตือ
วัดสะตือ ตั้งอยู่ที่บ้านท่างาม ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เดิมตั้งอยู่ทางเหนือ แต่เมื่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ดำเนินการสร้างพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ขึ้นภายในหมู่บ้านริมแม่น้ำป่าสัก วัดสะตือจึงย้ายมาตั้งที่บริเวณดังกล่าวตราบจนถึงปัจจุบัน สิ่งน่าสนใจภายในวัดได้แก่ พระอุโบสถโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ซึ่งเคยได้รับการดำเนินการบูรณะซ่อมแซมโดยพลตรีมนูญกฤษ ร...
ชุมชนชาวญวนตำบลไม้ตรา
ชุมชนชาวญวนตำบลไม้ตรา ตั้งอยู่ที่ตำบลไม้ตรา อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งตรงข้ามกับศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ในอดีตเมื่อ 150 ปีล่วงมาแล้ว ที่ตำบลแห่งนี้ได้มีชาวญวนที่อพยพจากเขตสามเสนใน กรุงเทพมหานคร ช่วงต้นรัตนโกสินทร์มาตั้งถิ่นฐานสร้างบ้านเรือนและอยู่อาศัยต่อมาจนกลายเป็นชุมชนชุมชนหนึ่ง ชาวบ้านส่วนใหญ่ที่นี่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก มีโบสถ์อยู่ในหมู่บ้าน ปัจจุบัน...
วัดพนัญเชิงวรวิหาร
ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลคลองสวนพลู ริมแม่น้ำป่าสักทางทิศใต้ฝั่งตรงข้ามของเกาะเมือง ห่างจากตัวเมืองราว 5 กิโลเมตร หรือเมื่อออกจากวัดใหญ่ชัยมงคล ให้เลี้ยวซ้ายตรงไปตามถนนประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะเห็นวัดพนัญเชิงอยู่ทางขวามือ วัดพนัญเชิงเป็นพระอารามหลวงชั้นโทชนิดวรวิหาร แบบมหานิกาย เป็นวัดที่มีมาก่อนการสร้างกรุงศรีอยุธยา ไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้าง ตามพงศาวดารเหนือกล่าวว่า พระเจ้าสายน้ำผึ้งซึ่งครองเมืองอโยธยาเป...

โรงแรมใกล้เคียง