ค้นหาโรงแรมรับส่วนลดสูงสุด 80%                                       
                                       
ค้นหาโรงแรมรับส่วนลดสูงสุด 80%
ค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไทย

กดถูกใจเพจของเราเพื่อติดตามข้อมูล ข่าวสาร กิจกรรม และสิทธิพิเศษสมาชิกได้ทันทีค่ะ






 ที่เที่ยวอ่างทอง > อำเภอป่าโมก > อนุสาวรีย์นายดอกนายทองแก้ว



อนุสาวรีย์นายดอกนายทองแก้ว

- ป่าโมก อ่างทอง -




รายละเอียดเกี่ยวกับที่เที่ยว

อนุสาวรีย์นายดอกนายทองแก้ว ประดิษฐานอยู่ที่หน้าโรงเรียนวิเศษชัยชาญวิทยาคม (ติดกับวัดวิเศษชัยชาญ) หมู่ 2 ตำบลไผ่จำศีล ตามเส้นทางสายอ่างทอง-วิเศษชัยชาญ ระหว่างกิโลเมตรที่ 26-27 เข้าไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร ซอยปู่ดอก-ปู่ทองแก้ว 16

เป็นอนุสรณ์สถานที่ชาววิเศษชัยชาญและชาวอ่างทองร่วมกันสร้าง เพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของวีรบุรุษแห่งบ้านโพธิ์ทะเล ชาววิเศษชัยชาญ ปู่ดอกและปู่ทองแก้ว ทั้งสองท่านยอมสละชีวิตอย่างกล้าหาญเพื่อปกป้องแผ่นดินไทยในการสู้รบกับพม่าที่ค่ายบางระจันก่อนที่กรุงศรีอยุธยาจะแตกในปี พ.ศ. 2309

อนุสาวรีย์แห่งนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมงกุฏราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาทรงเปิดเมื่อ พ.ศ. 2520

ประวัติความเป็นมา

นายดอกและนายทองแก้ว ถือเป็นบุคคลสำคัญในกลุ่มของ 11 วีรชนแห่งชาวบ้านบางระจัน ซึ่งการรบที่บางระจันเป็นการรบเพื่อป้องกันตัวเองของชาวบ้านเมืองสิงห์บุรีและ เมืองต่าง ๆ ที่พานมาหลบภัยกองทัพพม่าที่บางระจันในคราวการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง สามารถต้านทานการเข้าตีของกองทัพพม่าได้หลายครั้ง จนได้ชื่อว่า “เข้มแข็งกว่ากองทัพของกรุงศรีอยุธยาในสมัยนั้น” และมีกิตติศัพท์เลื่องลือในด้านวีรกรรมความกล้าหาญในประวัติศาสตร์ไทย

โดยในปี พ.ศ. 2307 กองทัพพม่าภายใต้การนำของเนเมียวสีหบดียกมาจากพม่า ซึ่งแต่เดิมแล้วมีภารกิจที่จะปราบปรามกบฏต่ออาณาจักรพม่าเท่านั้น แต่เนื่องจากความอ่อนแอของอาณาจักรอยุธยา เนเมียวสีหบดีจึงตั้งเป้าหมายที่จะเข้าตีกรุงศรีอยุธยาไปด้วย

ต้นเดือนมกราคม พ.ศ. 2308 กองทัพของเนเมียวสีหบดีรุกเข้าสู่อาณาจักรอยุธยาจากทางเหนือ ได้มาหยุดอยู่ที่เมืองวิเศษชัยชาญ และจัดให้ทหารพม่ากองหนึ่งเที่ยวกวาดต้อนทรัพย์สินและผู้คนทางเมือง วิเศษชัยชาญ ราษฎรต่างพากันโกรธแค้นต่อการกดขี่ข่มเหงของทหารพม่า จึงแอบคบคิดกันต่อสู้ ในเดือน 3 พวกชาวเมืองวิเศษชัยชาญ เมืองสิงห์บุรี เมืองสรรคบุรี และชาวบ้านใกล้เคียงพากันคบคิดอุบายเพื่อล่อลวงทหารพม่า ทั้งรวบรวมผู้คนไว้เพื่อทำการต่อไป ในบรรดาชาวบ้านที่ร่วมกันอยู่นี้มีหัวหน้าที่สำคัญคือ นายแท่น นายโชติ นายอิน นายเมือง ซึ่งได้หลอกลวงทหารพม่านำไปหาทรัพย์สิ่งของที่ต้องการ ทหารพม่าหลงเชื่อตามไป ก็ถูกนายโชติและพรรคพวกซุ่มอยู่บุกเข้ามาฆ่าฟันพม่าตายประมาณ 20 คน แล้วจึงพากันหนีไปยังบางระจัน

ในเวลานั้นชาวเมืองต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียงต่างก็เข้ามาหลบอาศัยอยู่ที่บางระจันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีอาหารอุดมสมบูรณ์ ข้าศึกตามเข้าไปได้ยาก ชาวบ้านทั้งหลายจึงพาพรรคพวกครอบครัวอพยพหันมาพึ่งพระอาจารย์ธรรมโชติ ซึ่งมีกิตติศัพท์ว่ามีความเชี่ยวชาญทางวิทยาคมมาก ต่อมานายแท่นและผู้มีชื่อ อื่นๆ ชักชวนชาวบ้านได้อีกประมาณ 400 คนเศษพากันมาอยู่ที่บ้านบางระจัน หลังจากนั้นก็ตั้งค่ายขึ้นล้อมรอบบ้านบางระจัน 2 ค่าย เพื่อป้องกันทหารพม่าที่จะยกติดตามมาและเพื่อจัดหากำลังและศัตราวุธในแถบตำบลนั้น นอกจากนี้มีคนไทยชั้นหัวหน้าที่เข้ามาร่วมด้วยอีก 7 คน คือ ขุนสรรค์ พันเรือง นายทองเหม็น นายจันหนวดเขี้ยว นายทองแสงใหญ่ นายดอก และนายทองแก้ว รวมหัวหน้าที่สำคัญของค่ายบางระจันครั้งนั้นรวม 11 คน ตั้งซ่องสู้กับกองทัพพม่า

วีรกรรมอันกล้าหาญชาญชัยของนักรบไทยค่ายบางระจันสมัยนั้น เป็นที่ภาคภูมิใจและประทับอยู่ในความทรงจำของคนไทยทุกคนตลอดมาประชาชนชาวเมืองอ่างทองจึงพร้อมใจกันสร้างอนุสาวรีย์ เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่นายดอก และนายทองแก้วไว้ที่บริเวณวัดวิเศษชัยชาญอำเภอวิเศษชัยชาญ โดยที่ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมารเสด็จพระราชดำเนินมาทรงกระทำพิธีเปิดอนุสาวรีย์เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2520 ดังนั้นในวันที่ 25 มีนาคมของทุกปี ชาวเมืองอ่างทอง จึงได้กระทำพิธีวางมาลาสักการะอนุสาวรีย์นายดอก นายทองแก้ว เพื่อเป็นการระลึกถึงคุณความดี ในวีรกรรมความกล้าหาญของท่านเป็นประจำทุกปี




   เว็บไซต์ : -
   แหล่งที่มาของข้อมูล : http://www.tourismthailand.org


ที่เที่ยวใกล้เคียง


วัดสุวรรณเสวริยาราม
ภายในกำแพงแก้วประกอบด้วย โบสถ์ เจดีย์ทรงลังกาขนาดใหญ่ พระพุทธไสยาสน์ยาวราว 10 เมตร ที่แปลกคือ ที่รอยพระบาทของพระพุทธไสยาสน์ทำเป็นริ้วลายพระบาทแบบเป็นรอยโค้งเว้า ประดิษฐานอยู่ในพระวิหาร ที่ช่างท้องถิ่นไทยนำรูปแบบสถาปัตยกรรมตะวันตกเข้ามาผสม คือมีช่องเป็นซุ้มโค้งแบบฝรั่ง ที่วัดสุวรรณเสวริยารามยังมีอีกสิ่งที่น่าสนใจคือ ภาพจิตรกรรมฝาผนังในอุโบสถทั้งสี่ด้าน เป็นศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ราวรัชกาลที่ 4-5 ซึ่งได้รับอิทธ...
วัดพินิจธรรมสาร
วัดพินิจธรรมสาร ตั้งวัดเมื่อ พ.ศ.2259 เดิมนามว่า “วัดชีปะชาว” เมื่อ พ.ศ.2269 ตรงกับสมัยอยุธยา รัชสมัยพระเจ้าท้ายสระท้าย พระองค์โปรดให้พระยาราชสงครามดำเนินการชักชะลอพระพุทธไสยาสน์เดิมประดิษฐานอยู่ในวิหารวัดป่าโมก ใกล้ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ในการนี้ได้จัดสร้างพระตำหนักพลับพลาชัยขึ้น ณ ที่ใกล้วัดชีปะขาว สำหรับเป็นที่ประทับกะวางแผนงาน สั่งงานและตรวจตราการปฏิบัติงานและผลของการปฏิบัติงาน โดยที่พระเจ้าท้ายสระพร้อม...
ค้างคาวแม่ไก่วัดจันทาราม
หลายๆคนอาจเคยได้ยินคำถามที่เคยใช้ทายกันในสมัยครั้งยังเยาว์วัยบ่อยว่า “อะไรเอ่ย นกมีหู หนูมีปีก” ซึ่งคำตอบคงเป็นอื่นใดไปไม่ได้นอกจากค้างคาว แม้จะเป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่าค้างคาวนั้นเป็ฯสัตว์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นเวลาออกหากินหรืออากัปกิริยาในการดำเนินชีวิตก็ตาม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ปัจจุบันอาจหาดูได้ยาก อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสกับบรรยากาศการใช้ชีวิตแบบถ่ายทอดสดของบรรดาค้างคาว หรือนกมีหูแล้...
สวนปลา
อยู่บริเวณใกล้สี่แยกไฟแดงหน้าเรือนจำจังหวัดอ่างทอง มีปลาช่อนอะเมซอนขนาดใหญ่จำนวนมาก และปลาพื้นเมืองอื่นๆ เช่น ปลาแรด ปลาสวาย ปลาเทโพ ฯลฯ ไว้ให้นักท่องเที่ยวเที่ยวชม
สวนน้ำเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมา
สวนน้ำเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตั้งอยู่ที่ ถนนลำท่าแดง ตำบลย่านซื่อ เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2548 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เยาวชน และประชาชน ออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำ เพื่อสร้างสุขภาพให้แข็งแรง สวนน้ำฯ เปิดให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยวันจันทร์ - ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 12.00 - 20.00 น. วันเสาร์ - อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00 - 20.00 น. ค่าบริการ เด็ก 10 บาท ...
วัดสระแก้ว
ตำบลบางเสด็จ อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาด้านทิศตะวันออก ห่างจากกรุงเทพมหานครด้านทิศเหนือประมาณ 100 กิโลเมตร ห่างจากพระนครศรีอยุธยาด้านทิศเหนือ 15 กิโลเมตร ห่างจากจังหวัดอ่างทองด้านทิศเหนือ 17 กิโลเมตร มีเนื้อที่ดินตั้งวัดทั้งสิ้น 33 ไร่ 2 งาน 90 ตารางวา ปัจจุบันมีผู้มีจิตศรัทธาซื้อที่ดินถวายเป็นที่วัด ที่ธรณีสงฆ์ และที่ดินที่จัดผลประโยชน์โดยมูลนิธิสระแก้วมูลนิธิ วัดสระแก้ว เดิมช...
วัดยาง
ตั้งอยู่ที่ตำบลห้วยไผ่ จ. อ่างทอง มีพระเกจิอาจารย์นามกระเดื่อง คือ หลวงพ่อสุวรรณ ถิรสทฺโธ ผู้เป็นดั่งเทพเจ้าของชาวประชา ในยุคนี้สมัยนี้ เพราะท่านมีวิชาอาคมขลังต่าง ๆ อยู่มากมาย ไว้คอยช่วยเหลือประชาชน และสิ่งที่ขึ้นชื่อมากที่สุดที่ท่านได้สร้¬างก็คือ ตะกรุด และ วิชา นะ หน้าทอง ขุนแผนชมตลาดนั่นเอง สามารถแวะเวียนไปขอพร ไปกราบท่านได้ทุกวันวัดยางสันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย ยังคงมีซากโบราณสถานให้เห็น...
หมู่บ้านจักสาน
งานฝีมือจักสานอันลือชื่อของอ่างทองส่วนมากจะเป็นของอำเภอโพธิ์ทองแทบทุกครัวเรือน ที่ตั้งบ้านเรือนเรียงรายอยู่ทั้งสองฟากฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา มีการจัดตั้งเป็นกลุ่มการผลิตเครื่องจักสาน เครื่องหวาย กลุ่มจักสานไม้ไผ่ เช่น กลุ่มตำบลองครักษณ์ กลุ่มตำบลบางเจ้าฉ่า กลุ่มตำบลบางระกำ กลุ่มตำบลพลับ และกลุ่มตำบลอินทประมูลที่นี่เป็นแหล่งผลิตเครื่องจักสานด้วยไม้ไผ่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามราชกุมารี ได้เคยเสด็จพระราชดำเนิน...

โรงแรมใกล้เคียง